มื้ออร่อยยามเช้าพร้อมหลากเมนูอาหารว่างโดนใจสไตล์ Au Bon Pain

ชีวิตมนุษย์ออฟฟิศชาวกรุงอย่างเราด้วยความที่จะต้องฝ่าฟันกับฝนตก รถติด มลพิษ และรถเมล์นรก จึงทำให้ต้องเร่งรีบอยู่ทุกเช้า ถ้าได้กินของอร่อยแบบสารอาหารครบหมู่ พร้อมที่นั่งสบายๆ แถมยังมีเมนูเบเกอรี่หลากสไตล์ให้เลือกเสริมความอร่อยคงดีไม่น้อยใช่ไหมละคะ คำตอบของคุณอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ณ ร้าน Au Bon Pain ที่มีสาขากระจายอยู่ทุกย่านธุรกิจนี่เอง

เมนูอร่อยครบครัน พร้อมให้คุณมาฝากท้องยามเช้า

วันนี้เราได้รับเชิญมาชิมความอร่อยเมนูใหม่ของ Au Bon Pain ที่สาขาสีลม เพราะได้ข่าวมาว่าเมนูใหม่สำหรับเดือนมิถุนายนนี้มีความพิเศษตรงที่เน้นรสชาติสไตล์ไทย ทานง่าย แถมยังคิดค้นสูตรโดยเอ็กเซกคูทีฟเชฟจาก Thailand Culinary Academy อีกด้วย การันตีความอร่อยขนาดนี้ ก้าวเข้าไปชิมความอร่อยกันเลยดีกว่าค่ะ

บรรยากาศด้านหน้าร้านสาขา Zuellig House Silom

ที่นั่งสบายๆ

มุมนี้ก็เป็นส่วนตัวดี

เริ่มต้นที่เมนูใหม่ แซนด์วิช ไทยสไปซี่ชิคเก้น (140 บาท) แซนด์วิชชิ้นโตสอดไส้สลัดไก่เผ็ดปรุงรสเอาใจนักชิมชาวไทย แฮมแผ่น พร้อมผักสลัด หอมใหญ่ และแตงกวา เครื่องมาเต็มขนาดนี้รับประกันว่าชิ้นเดียวอิ่มแน่นอน

เมนูแนะนำเดือนมิถุนายนนี้ Thai Spicy หรือไก่เผ็ดสไตล์ไทย จากฝีมือสร้างสรรค์โดยเอ็กเซกคูทีฟเชฟ

ซูมดูใกล้ๆ ไทยสไปซี่แซนด์วิช ไส้มาเต็ม!

แต่หากใครเริ่มเบื่อแป้งขนมปังก็สามารถอร่อยสไตล์เม็คซิกันได้กับ ไทยชิคเก้นสไปซี่แร๊พ (140 บาท) อร่อยนุ่มกับแผ่นแป้งตอร์ติญ่าสอดไส้ไก่สไปซี่สูตรพิเศษของทาง Au Bon Pain ที่มีรสเผ็ดแบบกลมกล่อม ส่วนตัวแล้วคิดว่าคุณสาวๆ น่าจะเลิฟเมนูนี้เป็นพิเศษเพราะถือง่ายและไม่อิ่มมากเหมือนขนมปังแซนด์วิชค่ะ

แร๊พอร่อยกลมกล่อม แถมถือง่าย ไม่เปื้อนมือ

เอาใจคนรักของหวานกันบ้างกับเมนูพิเศษ ชีสเค้กลิ้นจี่ (65 บาท) หวานหอมเอาใจคุณสาวๆ ด้วยชีสเค้กรสชาติลิ้นจี่ เข้มข้นด้วยส่วนผสมครีมชีสจากแคลิฟอร์เนีย พร้อมชิ้นเนื้อลิ้นจี่ผสานมาในเนื้อเค้ก ที่สำคัญไม่ทำให้อ้วนเพราะเป็นเค้กแบบปราศจากไขมันทรานส์ เรียกได้ว่าอร่อยแบบไร้ห่วงยางจริงๆ

ชีสเค้กลิ้นจี่เข้มข้นที่มีเนื้อลิ้นจี่สอดแทรกมาทุกอณู แถมยังไม่มีไขมันทรานส์ด้วย

เริ่มคอแห้งกันแล้วใช่ไหมคะ มาเติมความสดชื่นแบบปราศจากคาเฟอีนกับเมนูเครื่องดื่มเย็นรสนุ่มกับ Frozen Red Bean Cream (110 บาท) กันดีกว่า เมนูนี้โดนใจคนที่ชอบดื่มนมสดเย็นแน่นอน แถมยังเพิ่มรสชาติเคี้ยวสนุกมาด้วยถั่วแดงกวนรสหวานกำลังที่ท้อปปิ้งมาด้านบนด้วย

สดชื่นหวานหอมกับโฟรสเซ่นเรดบีนครีม

แต่ใครเป็นแฟนชาเขียว ต้องไม่พลาด Frozen Matcha Green Tea with Red Bean (140 บาท) พูดได้เลยว่าเด็ดจริง สำหรับเมนูชาเขียวปั่นหวานหอมอร่อยกำลังดี ยิ่งทานคู่กับถั่วแดงยิ่งฟิน

ชาเขียวถั่วแดง อร่อยลื้มมมม

นอกจากเมนูใหม่ที่จะหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันมาให้ได้ลิ้มความอร่อยกันทุกๆ เดือนแล้ว Au Bon Pain ยังมีเมนูเบเกอรี่อบสดใหม่วันต่อวัน สลัดโฮมเมด และเบเกิ้ลที่คุณสามารถเลือกท้อปปิ้งที่ต้องการได้ตามใจ แถมทำสดใหม่ชิ้นต่อชิ้นให้ได้เลือกอร่อยกันอีกด้วย

เบเกลตามสั่ง อีกหนึ่งเมนูเด็ดของโอบองแปง

เมนูเบเกอรี่ก็มีหลากหลายให้เลือกชิม

Chicken Croissant

Blueberry Swirl

Sweet Cheese Muffins

หรือจะอร่อยเบาๆ กับสลัดหลากสไตล์

น้ำผลไม้คั้นสดเพื่อสุขภาพ

มื้อเช้า มื้อสาย หรือมื้อบ่ายที่ต้องการนั่งพัก นั่งคุยงาน หรือจะนั่งชิลล์ครั้งหน้า ก็อย่าลืมนึกถึง Au Bon Pain สาขาใกล้บ้านกันนะจ๊ะ

มื้อไหนๆ ก็อร่อยได้ที่โอบองแปง

เบกกิ้งพาวเดอร์กับเบกกิ้งโซดาความเหมือนที่แตกต่าง

ในสูตรขนมอบมักจะเห็นเบกกิ้งพาวเดอร์ และเบกกิ้งโซดาอยู่ในส่วนผสม ด้วยชื่อที่คล้ายคลึงกันนี้หลายคนจึงเกิดความสงสัยว่าสองสิ่งนี้มันเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร บางคนก็เหมารวมเอาว่ามันคือสิ่งเดียวกัน แต่เดี๋ยวก่อน! เบกกิ้งพาวเดอร์ และเบกกิ้งโซดานั้นมีทั้งความเหมือนและความแตกต่างกัน ดังนั้นเรามารู้จักกับทั้ง 2 สิ่งนี้กันเลยดีกว่า

เบกกิ้งพาวเดอร์ (Baking powder) หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า ผงฟู เป็นสารที่ช่วยทำให้ขนมฟูน่ารับประทาน อย่างเค้กหรือเบเกอรี่อื่นๆ เกิดจากการผสมเบกกิ้งโซดา กับสารที่เป็นกรดและแป้งข้าวโพด เพื่อไม่ให้สารทั้ง 2 ชนิดสัมผัสกันโดยตรง เมื่อเริ่มแรกที่ผงฟูสัมผัสกับของเหลวมันจะเกิดคาร์บอนไดออกไซด์ก่อน แต่จะไม่ปลดปล่อยเต็มที่ จนกว่าจะได้รับความร้อน จึงปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เต็มที่ ดังนั้นส่วนผสมที่เราทำเสร็จแล้วจึงไม่จำเป็นต้องอบทันที สามารถพักไว้ก่อนได้

เบกกิ้งโซดา (Baking soda) มีชื่อทางเคมีว่า โซเดียมไบคาร์บอเนต จะสลายตัวเมื่อได้รับความร้อน ข้อเสียของเบกกิ้งโซดาคือ จะมีสารตกค้าง ถ้าใช้ปริมาณมากเกินไปทำให้เกิดรสเฝื่อน และเพื่อให้สารตกค้างนี้หมดไปสามารถเติมส่วนผสมที่เป็นกรดลงไปด้วย เช่น ครีมเปรี้ยว, โยเกิร์ต, น้ำมะนาว ฯลฯ

นอกจากนี้ เบกกิ้งโซดา จะทำปฏิกิริยากับกรด โดยจะปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ออกมาทันทีที่สัมผัสกับของเหลวที่เราใส่เข้าไป ดังนั้นหากส่วนผสมใดที่เราใส่แต่เบกกิ้งโซดา จึงต้องรีบอบทันที นี่จึงเป็นสาเหตุที่สูตรขนมอบบางสูตรเลือกที่จะใส่ทั้งเบกกิ้งพาวเดอร์ และเบกกิ้งโซดาพร้อมกัน

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเวลาจะทำขนมหรือต้องใช้เจ้า 2 อย่างนี้ล่ะก็อย่าลืมดูปริมาณที่ต้องใส่ให้ดีด้วยนะคะ ขนมที่ทำออกมาจะได้ฟู นุ่ม อร่อย และน่ารับประทาน ถ้าใครยังไม่มีสูตรในดวงใจลองดูสูตร Valentine’s Chocolate Cake ของ OpenRice ที่ทั้งทำง่ายแค่ใช้ไมโครเวฟแถมยังมีส่วนผสมของทั้งเบกกิ้งพาวเดอร์ และเบกกิ้งโซดาอยู่ด้วยนะคะ ♥

เครดิตภาพ : chatelaine, cookingontheside, wherewomencook, pauladeen, zeelandia-international, slashfood, blogs.babble

เทคนิคตีครีมสดเพื่อขนมแสนอร่อยสไตล์ญี่ปุ่น

นามะครีม หรือ ครีมสด เป็นส่วนประกอบหลักที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของเบเกอรี่ญี่ปุ่น ด้วยวัฒนธรรมการกินของชาวญี่ปุ่นที่เน้นอาหารหรือขนมที่มีรสชาติเบา ไขมันต่ำ ดีต่อสุขภาพ นามะครีมจึงถูกนำมาใช้แทนบัตเตอร์ครีม ซึ่งมีไขมันจากเนยที่สูงกว่า และด้วยรสชาติของนามะครีมที่กลมกล่อม หอมหวาน และไม่เลี่ยน ถูกปากชาวญี่ปุ่น จนเรียกได้ว่าเป็นครีมที่ใช้แปลงร่างเค้ก และแสดงความเป็นเค้กญี่ปุ่นได้อย่างเด่นชัด

เคล็ดลับการตีครีมสด เพื่อนำไปทำขนมอร่อยๆ มีดังนี้

 ควรแช่ครีมสดในตู้เย็นช่องธรรมดาให้เย็นก่อนนำมาตีทุกครั้ง และการรองอ่างน้ำแข็งด้านล่างอ่างครีม จะช่วยให้ตีครีมขึ้นได้โดยง่าย

 ระวังอย่าตีครีมแรงและนานเกินไป เพราะจะทำให้ส่วนผสมของไขมันและน้ำ แยกตัวจากกันจนไขมันจับตัวกันเป็นก้อนเนย และไม่สามารถทำาให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้อีก

ที่มา : SangdadPublishing

เครดิตภาพ : SangdadPublishing , acozykitchen, reindear5.bloggang.com, peachis.exteen.com, Patisserie MORI Osaka

หวานซ่อนเปรี้ยว สอดไส้ผลไม้ กับเมนูขนมอบสดใหม่จากเตา

ดูนน์ บาร์ แอนด์ เรสเตอรอง (Dune Bar and Restaurant) ที่โรงแรมดูนน์ หัวหิน (Dune Hua Hin) ขอแนะนำขนมหวาน 2 รายการใหม่ล่าสุด พร้อมให้คุณลิ้มรสชาติเปรี้ยวปนหวานจากผลไม้อบกับแป้งเบาๆ เคล้ากลิ่นเนย ท่ามกลางวิวทะเลสุดโรแมนติก ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ขอเชิญเบเกอรี่เลิฟเวอร์มาลิ้มลอง “เบอร์รี่ครัมเบิ้ล” (Berry Crumble) สัมผัสความหวานซ่อนเปรี้ยวชวนสดชื่นของสตรอเบอร์รี่และราสเบอร์รี่ ที่โรยหน้าด้วยแป้งครัมเบิ้ลอบกรอบหอมกลิ่นเนยและอบเชย ทานคู่ซอสวานิลลาเข้มข้น หรือเลือกอร่อยกับ “ทาร์ตตาแต็ง” (Tart Tatin) ทาร์ตแอ็ปเปิ้ลแป้งพายบางกรอบ หอมคาราเมลฉ่ำๆ นับเป็นสุดยอดเมนูของหวานที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนหัวหิน

“เบอร์รี่ครัมเบิ้ล” และ “ทาร์ตตาแต็ง” ราคาที่ละ 190++ บาท สำรองความอร่อยได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปที่ โทร. (032) 515 – 051 – 3 หรืออีเมล์ที่ md@dunehuahin.com

สั่งเค้กสุดคุ้มฉลองเทศกาลปีใหม่ ที่ 92 Bakery

ใกล้ถึงหน้าเทศกาลฉลองปีใหม่นี้หากมองหาเค้กคุณภาพโรงแรมในราคาสุดพิเศษไว้เป็นของขวัญของกำนัล ขอเชิญมาที่ ห้อง 92 เบเกอรี่ โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน ฯ ด้วยเนื้อเค้กนุ่มละมุนในรสชาติต่างๆ ที่คุณชื่นชอบ พร้อมแต่งหน้าหรือเขียนคำอวยพรได้ตามต้องการ ในราคาเพียง 399 บาทต่อปอนด์เท่านั้น เพียงท่านสั่งจองก่อนล่วงหน้า 1 วัน ท่านสามารถรับสิทธิในราคาพิเศษ ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  นอกจากนี้ยังให้บริการส่วนลดสำหรับเค้กชิ้น จากราคาปกติลดถึง 50 % ทุกวันตั้งแต่เวลา 18.30-21.00 น.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0-2641-4777, 0-2641-4888 ต่อ 1462 E – Mail :info@goldentulipbangkok.com Website : http://www.goldentulipbangkok.com

DONQ ตำนานเบเกอรี่สไตล์ฝรั่งเศสส่งตรงจากญี่ปุ่น อบด้วยหัวใจ สดใหม่ทุกวัน

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเบเกอรี่ถือเป็นเมนูยอดนิยมยามว่างของนักชิมหลายคน ตอนนี้มองไปทางไหนก็แทบจะเห็นร้านเบเกอรี่อยู่ทุกหัวมุมถนน แต่จะมีสักกี่ร้านที่สามารถเปิดให้บริการได้นานเป็นสิบปี ยิ่งร้านไหนเปิดมาเป็นร้อยปี ย่อมการันตีความอร่อยได้แบบหายห่วง วันนี้ OpenRice มีโอกาสไปเยือนร้านเบเกอรี่สไตล์ฝรั่งเศสแบรนด์ดังของญี่ปุ่นที่เปิดมานานถึง 108 ปี ซึ่งตอนนี้เข้ามาเปิดร้านสาขาแรกในเมืองไทย ตามไปค้นหาคำตอบกันดีกว่าว่าเพราะอะไร DONQ (ดอนคิว) เบเกอรี่พรีเมี่ยมสัญชาติญี่ปุ่นถึงได้เปิดให้บริการมายาวนานขนาดนี้

DONQ เบเกอรี่จากแดนอาทิตย์อุทัยสไตล์ฝรั่งเศส

ร้าน DONQ สาขาแรกในเมืองไทยตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลที่ Food Hall ชั้น 7 ห้าง Central World นี่เอง หาไม่ยากเพราะเดินออกจากซูเปอร์มาร์เก็ตก็จะเห็นร้าน DONQ สีครีมสะอาดตาตัดกับโลโก้สีน้ำเงิน พร้อมขนมปังสไตล์ฝรั่งเศสและเบเกอรี่กว่า 80 ชนิด ตั้งเรียงรายบนชั้น มองทะลุกระจกโค้งใสรายรอบร้านเข้าไป น่ารับประทานสุดๆ

บรรยากาศด้านหน้าร้าน

มองทะลุกระจกเข้าไปก็จะพบกับเบเกอรี่หลากหลายชนิดเรียงรายอยู่ภายในร้าน

หลากหลายเมนูเบเกอรี่พรีเมี่ยมสไตล์ฝรั่งเศส

หลังจากที่ได้เดินสำรวจชั้นวางขนมภายในร้านเราก็เริ่มจะเข้าใจว่าเพราะเหตุใดเบเกอรี่ DONQ แห่งนี้จึงเปิดให้บริการความอร่อยมายาวนานกว่าศตวรรษ แถมยังส่งต่อความอร่อยไปยังหลายประเทศทั่วเอเชีย ด้วยเมนูเบเกอรี่ในสไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆ บวกกับความพิถีพิถันในด้านการบริการในแบบญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า Omotenashi จึงทำให้ขนมปังที่อบสดใหม่ทุกวันของ DONQ มีทั้งรสชาติที่อร่อย มีมาตรฐานเหมือนกันทั่วโลก และยังเพิ่มเติมความใส่ใจลงไปในขนมปังทุกชิ้น ทุกก้อน ของร้านอีกด้วย

เชฟชาวญี่ปุ่นกำลังตั้งใจรังสรรค์ความอร่อยสไตล์ DONQ ที่มีตำนานยาวนานกว่า 108 ปี

จากมือเชฟถึงมือคุณ เบเกอรี่สดใหม่ทุกวัน

โดยขนมปังที่วางขายในร้านจะแบ่งเป็น ขนมปังฝรั่งเศส (ฟรานซ์ปัง), เพสทรี่, แซนด์วิช, และเมนูหนักๆ ในส่วนของคาเฟ่ซึ่งจะมีโต๊ะนั่งบริการด้วย

นอกจากไลน์เบเกอรี่แล้ว DONQ ยังมีที่นั่งให้รับประทานเมนูพิเศษจากส่วนคาเฟ่ด้วย

ขนมปังแบบฝรั่งเศสแท้ๆ หลายเมนูให้เลือกอร่อย

เมนูเด่นของมุมนี้ต้อง Pain de Mie (Mt) ขนมปังปอนด์ทรงภูเขาเอกลักษณ์ของ DONQ

มุมแซนด์วิชมีให้เลือกหลากหลายเช่นกัน

แซนด์วิชไข่ชิ้นโต

Jumbon Brie แซนด์วิชบาแก็ตสอดไส้ชีสบรีและแฮม

Chocolenu ขนมปัง Brioche รสช็อคโกแล็ตชิพด้านบนเป็นคุกกี้กรุบกรอบ

5 โชกุมาเมนริง ขนมปังโรยถั่ว 5 ชนิด

Tart Bresson (Mango) ทาร์ตครีมชีสมะม่วง เมนูนี้นำผลไม้ในท้องถิ่นของไทยอย่างมะม่วงมาปรุงเป็นเมนูอร่อย

หรือใครชอบรสชาติแบบญี่ปุ่น แนะนำขนมปังไก่เทอริยากิ

สำหรับเมนูที่ทาง OpenRice ได้ลองชิมกันในวันนี้ คือ 5 เมนูเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของ DONQ ได้แก่ บาตาร์ค, มินิครัวซองค์, คอร์นแปง, ชีสคุกกี้ และเฟรนช์โทสต์

5 เมนูแนะนำห้ามพลาดของร้าน DONQ

บาตาร์ด Batrad (65 บาท) ขนมปังฝรั่งเศสก้อนขนาดกะทัดรัด ดูคล้ายบาเก็ตย่อส่วน เนื้อแป้งกรอบนอกแต่นุ่มหนึบอยู่ภายใน รสชาติเค็มมันกำลังดี อุ่นร้อนทานคู่กับเนยยามเช้าและกาแฟอุ่นๆ อีกสักแก้ว ก็ฟินกันสุดๆ

เทียบให้ดูกันชัดๆ ระหว่างบาเก็ต (ซ้าย) และ บาตาร์ค (ขวา)

บาตาร์คอุ่นร้อนทาเนยชุ่มฉ่ำ แค่นี้ก็ฟินแล้ว

มินิครัวซองค์ Mini Croissants (5 ชิ้น 55 บาท) ครัวซองค์ไซส์มินิ ผิวนอกเคลือบน้ำตาลเพิ่มความหวาน เข้ากันดีกับแป้งพัฟกรอบหอมอร่อยของเนื้อครัวซองค์ พูดได้ว่าครัวซองค์ของที่นี่นอกจากจะทำขนาดชิ้นมาได้อิ่มกำลังดีแล้ว ยังหวานอร่อยแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม!

มินิครัวซองค์ ไซส์พอดีคำ แป้งกรอบ รสชาติอร่อยแบบหาไม่ได้จากร้านอื่น

แพ็ค 5 ชิ้น ราคา 55 บาทเท่านั้น

คอร์นแปง Corn Pan (45 บาท) ขนมปังข้าวโพด เมนูยอดฮิตตลอดกาลของ DONQ เมนูธรรมดา แต่ไม่ธรรมดาเพราะเนื้อแป้งคอร์นแปงมีความนุ่มฟูและยืดหยุ่นได้แบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน แทรกรสชาติหวานธรรมชาติของเมล็ดข้าวโพด อร่อยนุ่มลงตัว

คอร์นปัง ก้อนกลมโต เมนูอันดับ 1 ของทางร้าน

เนื้อแป้งมีความหนึบนอกนุ่มใน แทรกด้วยเมล็ดข้าวโพคสวีทคอร์น

เนื้อคอร์นปัง นุ่มแน่นไม่เหมือนใคร

ทดสอบความนุ่มของเนื้อขนมปังด้วยการบีบจนแบน แต่เมื่อคลายมือออก ขนมปังก็ยังคงฟูนุ่มน่ากินเหมือนเดิม ว้าว…

ชีสคุกกี้ Cheese Cookie (55 บาท) แม้จะได้ชื่อว่าคุกกี้แต่อันที่จริงแล้วเมนูนี้คือขนมปังเนื้อนุ่มราดด้านบนด้วยแป้งคุกกี้สดกรอบอร่อย สอดแทรกด้วยครีมชีสรสเข้มข้นด้านใน กินพร้อมกันทั้งชิ้นอร่อยลืมมมม!

ชีสคุกกี้ ความอร่อยหลากหลายมิติในชิ้นเดียว

บิออกมาดูไส้ในก็จะพบครีมชีสแน่นๆ สุดแสนอร่อย

เมนูสุดท้ายเป็นเมนูจากคาเฟ่ Ultimate French Toast (260 บาท) เฟรนช์โทสต์เอกลักษณ์ของ DONQ โดดเด่นด้วยแป้งขนมปังก้อนกลมฉ่ำเนย อบมาร้อนๆ เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมวานิลลา ผลไม้สด และวิปปิ้งครีม หากใครชอบรสหวานก็สามารถราดไซรัปเพิ่มได้ด้วย เมนูนี้รวมเครื่องดื่มชาหรือน้ำอัดลมอยู่ในเซ็ทแล้ว

เฟรนช์โทสต์สูตรพิเศษของ DONQ เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลา ผลไม้สด วิปปิ้งครีม และไซรัป

ขอบอกว่า Ultimate French Toast ชุ่มฉ่ำลงตัว แตกต่างจากเฟรนช์โทรสต์ที่เคยกินที่ร้านอื่นๆ แน่นอน

DONQ Cafe ยังมีอีกหลากหลายเมนูให้เลือกอร่อย

DONQ เปิดให้บริการเบเกอรี่สไตล์ฝรั่งเศสทุกวันตั้งแต่ 11.00 – 22.00 น. โดยจะอบขนมปังกันแบบวันต่อวันแบบ Freshly Baked ด้วยสูตรความอร่อยที่ไม่ผิดเพี้ยนไปจากตำนานความอร่อย 108 ปีที่ประเทศญี่ปุ่น รีบไปชิมความอร่อยกันได้แล้ววันนี้ที่ Central World ไม่ต้องบนไกลถึงแดนอาทิตย์อุทัยเลยนะจ๊ะ

พบกับขนมปังอบสดใหม่ด้วยความใส่ใจได้ทุกวัน ที่ร้าน DONQ

“สปอร์ตเกิร์ล” ต้องอ่านก่อนกิน 7 เมนูต้องห้ามหลังออกกำลังกาย

สาวๆ OpenRicer หลายคนที่ชอบการกินเป็นชีวิตจิตใจ อย่าลืมออกกำลังกายกันบ้างนะคะเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง แต่สำหรับคนที่เป็น “สปอร์ตเกิร์ล” ขยันเบิร์นแคลอรี่อยู่ตลอด ตลอด แต่หุ่นกลับไม่เฟิร์มเอาเสียเลย ทั้งที่ขยันออกกำลังกายอยู่ทุกวัน เป็นเพราะอะไรกันแน่นะ หรือจะเป็นเพราะมื้ออาหารหลังการเวิร์คเอาท์ ที่มันไม่เวิร์คเอาเสียเลย ก็อุตส่าห์ฟิตแทบตายแต่กลับไม่เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายน่ะสิ

ก็แหม…ทุกครั้งหลังออกกำลังกายจนหอบแฮ่ก ท้องมันก็หิวจนต้องคว้าอะไรใกล้มือมากิน อ๊ะ อ๊ะ ช้าก่อน… ไม่ใช่ว่าเบิร์นออกไปเต็มที่แล้วจะหม่ำอะไรก็ได้นะ แต่ต้องเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ มาดูกันสิว่าอาหาร 7 อย่างที่ไม่ควรกินหลังเวิร์คเอาท์นั้นมีอะไรกันบ้าง

	อันดับแรกที่ควรหลีกเลี่ยงคือ การกินของจุกจิกรสชาติเค็มมัน ไม่ว่าจะเป็น ป๊อบคอร์นรสเค็มหรือแครกเกอร์โรยเกลือ แม้แต่ขนมปังกรอบรสเค็มแป้งโฮลวีทก็ไม่ได้นะคะเพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่แป้งแต่อยู่ที่ความเค็มของสิ่งที่เรากำลังจะกินเข้าไปต่างหาก ซึ่งหลังจากที่เราเสียเหงื่อไปมาก เราจะรู้สึกโหยหาอาหารรสเค็ม เพราะร่างกายได้สูญเสียแร่ธาตุบางอย่างออกไปพร้อมกับเหงื่อ รวมไปถึงโพแทสเซียม แต่แทนที่จะตามใจปาก เราก็ต้องมีสติและเลือกหยิบสิ่งมีประโยชน์แทนที่ค่ะ ได้แก่กล้วย ที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม หรือผลไม้อบแห้งต่างๆ
	ไม่ใช่แค่เกลือเท่านั้นที่ต้องหลีกเลี่ยง แต่น้ำตาลก็ต้องห้ามเหมือนกันนะโดยเฉพาะโยเกิร์ตรสผลไม้ต่างๆ ที่แฝงความหวานเอาไว้ แม้แต่ถั่วเคลือบน้ำตาล หรือท็อฟฟี่ต่างๆ ก็ห้ามเช่นกัน ด้วยเหตุผลที่เราต่างรู้ดีว่าน้ำตาลมีแคลอรี่เยอะมาก และส่งผลเสียต่อรูปร่างในระยะยาว ที่เห็นชัดๆ คือ น้ำตาลส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญได้ช้าลง ข้อแนะนำคือทุกครั้งก่อนกินต้องอ่านฉลากให้ละเอียดนะคะ ผลิตภัณฑ์ชนิดไหนมีน้ำตาลเป็นส่วนผสมก็ควรจะหลีกเลี่ยง อีกอย่างที่ต้องห้ามเช่นกันนั่นคือ โซดา เพราะจะทำให้เกิดอาการท้องอืด แต่ถ้าอยากดื่มอะไรที่นอกเหนือจากน้ำเปล่า แนะนำให้ดื่มชาเย็นไม่ใส่น้ำตาล จะช่วยลดความอยากอาหารได้ดี
	ของหวานอีกอย่างที่สาวๆ ชื่นชอบกันมากอย่าง ช็อคโกแลตนม ก็ต้องหักห้ามใจนะคะ เพราะมีแคลอรี่สูง และยังไม่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายจึงไม่มีประโยชน์หากทานหลังจากออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง แต่ถ้ารู้สึกอยากทานของหวานอย่างมากแล้วล่ะก็ แนะนำให้กินช็อคโกแลตก่อนออกกำลังกายแทนค่ะ ความจริงแล้วช็อคโกแลตก็มีประโยชน์เหมือนกัน โดยเฉพาะดาร์กช็อคโกแลต จากการศึกษาพบว่า สารที่มีอยู่ในช็อคโกแลตสามารถช่วยเรื่องความจำและกระบวนการคิดได้ รวมทั้งมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง
	พวกเบเกอรี่ทั้งหลายก็ควรงดเว้น ไม่ว่าจะเป็นมัฟฟิน สโคน โดนัท พาย พุดดิ้งและแน่นอน…คัพเค้ก >,<สาวๆ คงกรีดร้องอยู่ในใจ แต่ก็ต้องยับยั้งชั่งใจนะคะ เพราะของหวานที่ว่ามานี้มีแต่แป้งทั้งนั้น แม้จะช่วยให้อิ่มท้อง แต่อย่าลืมว่าหลังจากที่ร่างกายเบิร์นแคลอรี่ไปเยอะก็ย่อมต้องการคาร์โบไฮเดรตที่มีคุณภาพ มาชดเชยไกลโคเจนในกล้ามเนื้อที่สูญเสียไปขณะออกกำลังกาย ดังนั้นควรเลือกทานขนมปังโฮลวีทหรือผลไม้แห้งแทนจะดีกว่า
	สำหรับสปอร์ตเกิร์ลทั้งหลายต้องคุ้นเคยกับ Energy Bar เป็นอย่างดี อธิบายง่ายๆ สิ่งนี้ก็คือของขบเคี้ยวให้พลังงานในรูปแบบแท่งEnergy Bar จึงเหมาะกับการกินก่อนออกกำลังกายอีกเช่นเดียวกัน ของขบเคี้ยวที่ให้พลังงานสูงขนาดนี้ อย่าลืมพลิกอ่านฉลากก่อนนะคะ ในหนึ่งแท่งนั้นมีปริมาณน้ำตาลเป็นส่วนผสมอยู่ไม่น้อย ซึ่งเจ้าน้ำตาลนี่ล่ะที่เป็นตัวการทำให้ระบบการเผาผลาญช้าลง ทานมากทำให้อ้วน จึงไม่ควรทานอย่างยิ่งหลังจากที่ออกกำลังกายเสร็จแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพลังงานที่ได้จาก Energy Bar ยังมีผลข้างเคียงอีกอย่างคือ ทำให้นอนหลับยากในตอนกลางคืน ไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะเลือกเป็นมื้อเย็น
	อาหารต้องห้ามอีกอย่างที่เชื่อว่า สาวๆ รู้กันอยู่แล้ว แต่การห้ามใจนั้นยากแสนยากนั่นก็คือบรรดาอาหารที่ทำให้อ้วน อุตส่าห์เสียเวลา เสียเหงื่อออกกำลังกายมาได้ตั้งนาน แต่มาเสียท่าให้กับเฟรนช์ฟรายด์ มันฝรั่งทอด พิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์หรือฮอทด็อก ก็ไม่ไหวนะฮะ จำง่ายๆ ว่า ฟาสฟู้ด เป็นสิ่งที่ไม่ควรแตะต้อง ถ้าอยากหุ่นดีแล้วล่ะก็ ของมัน ของทอด ก็ต้องตัดใจด้วยนะ เพราะนอกจากแคลอรี่อันมหาศาลแล้ว อาหารเหล่านี้ยังพ่วงคอเลสเตอรอล เพิ่มอัตราเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจอีกด้วย
	ออกจะแปลกใจเสียหน่อยที่พวกผักสดก็เป็นสิ่งที่ห้ามทานด้วยเช่นกันหลังจากที่โหมออกกำลังกาย ร่างกายใช้พลังงานไปมาก สูญเสียเหงื่อและเกลือแร่ชนิดละลายน้ำที่ออกไปพร้อมกับเหงื่อ การทานผักสดอย่างเดียวจึงไม่สามารถเติมเต็มในสิ่งที่ร่างกายต้องการได้ มื้ออาหารหลังเวิร์คเอาท์จึงต้องประกอบไปด้วย อาหารที่มีไฟเบอร์และโปรตีนสูง เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งการกินอาหารที่มีประโยชน์ครบหมวดหมู่หลังออกกำลังกายนั้น จะช่วยเร่งระบบการเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย

DIY New Year Cupcake Box

เพื่อนๆ มาส่งความสุขในเทศกาลแห่งความสุขสันต์อย่างเทศกาลคริสต์มาสหรือปีใหม่ด้วยกล่องคัพเค้กแสนน่ารักที่คุณก็ทำเองได้ง่ายๆ หีบห่อที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความตั้งใจจากฝีมือของเราเองจะยิ่งทำให้ของขวัญของเราประทับอยู่ในใจของผู้รับไปอีกนานแสนนาน

เริ่มต้นเตรียมอุปกรณ์กันเลยดีกว่า สิ่งที่ต้องเตรียมมี ดังนี้
1. กระดาษอาร์ตแข็ง 2 ด้าน สีขาวหรือสีอื่นตามต้องการ
2. กระดาษห่อของขวัญลวดลายตามชอบ
3. ริบบิ้นและอุปกรณ์ตกแต่งอื่นๆ
4. พลาสติกใส
5. กรรไกร คัทเตอร์ กาวแท่ง เทปกาวสองหน้า ดินสอ ไม้บรรทัด แผ่นรองตัด

ขั้นตอนแรก ตัดกระดาษแข็งที่เตรียมไว้ตามแพทเทิร์นกล่องที่ต้องการ อาจใช้รูปแบบกล่องแบบเดียวกับเราก็ได้นะ>>Download แพทเทิร์นกล่อง<<

ขั้นตอน 2 อย่าลืมเจาะฝากล่องตามรอยปรุ เพื่อกรุด้วยแผ่นใส จะได้มองเห็นคัพเค้กสุดสวยฝีมือคุณเองได้ชัดยิ่งขึ้น

ขั้นตอน 3 ประกอบกล่องให้เป็นรูปร่างที่ต้องการ กรีดเพื่อสอดประกอบกล่อง อาจใช้กาวติดย้ำในบริเวณฝากล่องและฐานกล่องเพื่อความแข็งแรง

เคล็ดลับ ในการพับกล่องแต่ละส่วนนั้น หากกระดาษกล่องของคุณมีความหนา ควรใช้คัทเตอร์กรีดให้เป็นรอยบางๆ ตามรอยพับ จะช่วยให้การพับกล่องง่ายยิ่งขึ้น

ขั้นตอน 4 กรุช่องที่เราเจาะไว้ที่ฝากล่อง ด้วยแผ่นใสที่เตรียมไว้ โดยใช้กาวสองหน้าปิดจากด้านใน

ขั้นตอน 5 ตกแต่งกล่องด้วยกระดาษห่อของขวัญและริบบิ้นตามต้องการ

เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ กล่องคัพเค้กแสนน่ารักที่มีเพียงกล่องเดียวในโลกให้คนพิเศษแล้วละ (^_^ )v

ลองใช้จินตนการสุดล้ำของเพื่อนๆ ตกแต่งประดับประดากล่องคัพเค้กในรูปแบบอื่นได้อีกหลากหลายเลยค่ะ ทั้งกล่องคัพเค้กแบบคู่และแบบเดี่ยว ลองไปทำกันดูนะคะ

——-

ขอขอบคุณคัพเค้กน่ารักๆ จากร้าน Pandora Bakeshop ที่สนับสนุนคัพเค้กในการถ่ายทำ DIY ครั้งนี้ด้วยค่ะ

เคล็ดไม่ลับสำหรับปาร์ตี้ “คัพเค้ก”

ขึ้นชื่อว่า “เค้ก” มีหรือสาวๆ จะไม่ชอบ เพราะส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงมักหลงใหลในรสชาติของเจ้าขนมหวานชนิดนี้

โดยเฉพาะคัพเค้กที่หาทานง่าย ซ้ำยังทำได้ไม่ยาก เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่เพิ่งเริ่มหัดทำขนม และยังเป็นของหวานที่เข้ากับปาร์ตี้สุดๆ

…ในวันว่างลองชวนเพื่อนฝูงมาสังสรรค์ พร้อมทำขนมเองกันเล่นสนุกๆ ก็ดีนะ

คิดได้แล้วล่ะก็ลงมือกันเลย…แต่เอ๊ะ แล้วจะทำอย่างไรให้คัพเค้กที่ทำเองเอร็ดอร่อยเหมือนซื้อตามร้าน เพื่อทำให้งานเลี้ยงเล็กๆ ของเราสนุกและเป็นที่จดจำ

ไม่ต้องห่วง OpenRice มีเคล็ดลับมาฝาก…

หลังจากสืบเสาะจนได้สูตรที่ถูกใจและลงมือทำแล้ว ต้องคำนึงถึงเนื้อคัพเค้กด้วย โดยเนื้อเค้กที่ดีและได้รับความนิยมมักจะเป็นเนื้อสปันจ์ คือเนื้อเค้กเหนียวจับตัวกันแน่นออกหยาบและมีรูพรุนเพื่อเพิ่มรสสัมผัสในปาก มีเคล็ดลับที่จะช่วยให้เนื้อคัพเค้กไม่หยาบจนเกินไป ด้วยการเติมครีมคัสตาร์ดลงไปนิดหน่อยก็จะช่วยให้คัพเค้กของเรานุ่มขึ้นได้

มาต่อกันที่รูปทรงของคัพเค้ก แต่ละคนก็มีความชอบและต้องการตกแต่ง ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นอุณหภูมิการอบจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากอยากให้เค้กพองกลมเต็มถ้วยนูนเป็นรูปโดมแล้วล่ะก็ ให้เพิ่มอุณหภูมิสักนิดหน่อยขณะอบ แต่ถ้าต้องการเนื้อเค้กที่เรียบแบนเพียงลดอุณหภูมิลงราว 25-35 องศาเซลเซียส เท่านี้ก็สามารถสร้างสรรค์รูปทรงที่ต่างไปได้ง่ายๆ

ถึงขั้นตอนตกแต่งกันบ้าง เหยาะเกลือประมาณ 1 หยิบมือผสมกับไอซิ่งหรือครีมที่ใช้บีบลงบนคัพเค้ก ก่อนจะนำมาตกแต่ง เพราะความเค็มของเกลือช่วยทำให้ของหวานรสชาติกลมกล่อมมากขึ้น แล้วลองใส่สีผสมอาหารแบบเจลลงไปในตัวครีมแต่งหน้าเค้ก เพราะสีแบบเจลจะเข้มข้นกว่า ช่วยเพิ่มสีสันให้คัพเค้กน่าหม่ำขึ้นเยอะ

แต่การบีบครีมไอซิ่งให้สวยงามนี่สิ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้คัพเค้กของเราสวยงามนั้น ลองเลือกใช้แท่นหมุนเค้กหรือที่เรียกว่า ฐานรองแต่งเค้ก มาเป็นตัวช่วย เพียงใช้มือข้างหนึ่งหมุนแท่นเบาๆ ขณะบีบเนื้อครีมออกมา จะช่วยให้ตกแต่งได้ง่ายยิ่งขึ้นมากเลยนะ

แล้วอย่าลืมเพิ่มความสนุกด้วยหัวบีบครีมรูปแบบต่างๆ

เพื่อเพิ่มความสนุกในงานเลี้ยงอีกเสต็ปแนะนำให้นำของตกแต่งหน้าเค้กมาวางเรียงกัน ให้แขกในงานได้ออกแบบคัพเค้กแสนเก๋ของตัวเอง

แค่นี้ก็เปลี่ยนปาร์ตี้เดิมๆ ให้สนุกขึ้นมาได้ ด้วยคัพเค้กแสนอร่อย

เครดิตภาพ : videojug, hubpages, cakejournal mywedding , glorioustreats, tastespotting และ theberry

สวัสดีค่ะ

ยินดีต้อนรับเข้ามาลิ้มลองความอร่อยกับเราที่ Cafe’Maemie นะค่ะ
สวัสดีปีม้า ปี๒๕๕๗ ขอให้สุขสมหวังโชคดีตลอดปีนะค่ะ